
กันสงฆ์ (ประเพณีเลี้ยงพระชาวเขมร)
กันสงฆ์ เป็นภาษาเขมร (กัน แปลว่า ถือ สงฆ์ คือ พระสงฆ์) หมายถึง การนำอาหารไปถวายพระสงฆ์ในระหว่างบุญเดือนสิบ (สารทเขมร) คือตั้งแต่แรม 1 ค่ำ เดือน 10 (หลังเบ็นตูจ-สารทเล็ก) เป็นต้นไปจนถึงแรม 15 ค่ำ เดือนเดียวกัน ซึ่งต่อไปก็จะเป็นวันสารทใหญ่ (เบ็นทม)
ชาวเขมรในเขตจังหวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ จะจัดทำพิธี แซนโดนตา คือการเซ่นผีปู่ย่าตายายและผีไร้ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว รวมทั้งจัดพิธีกรรมทางสงฆ์ด้วย เป็นพิธีกรรมที่ยิ่งใหญ่กว่าบุญสารทของชาวภาคกลาง โดยแบ่งเป็นเบ็นตูจ (สารทเล็ก จัดวันขึ้น 14-15 ค่ำ เดือนสิบ) และเบ็นทม (สารทใหญ่ จัดวันแรม 14-15 ค่ำ เดือนสิบ)
พิธีกันสงฆ์
วันเวลา ตั้งแต่แรม 1 ค่ำ เดือนสิบ เป็นต้นไป ถึง แรม 15 ค่ำ เดือนสิบ รวม 15 วัน
พิธีกรรม ชาวบ้านบางหมู่บ้านอาจจะแบ่งหน้าที่กันว่าใครจะอุปัฏฐาก หรือปฏิบัติพระสงฆ์วัดใด โดยการนำจังหันเช้าและเพลไปถวายทุกวันอย่าให้ขาด ในพิธีนี้ เมื่อญาติโยมจัดสำรับถวายพระเณรครบถ้วนแล้ว ต้องจัดสำรับหนึ่งถวายพระพุทธรูป และอีกสำรับหนึ่งสำหรับพระภิกษุรูปหนึ่งออกมารับจังหันที่จัดถวายพิเศษก่อน โดยมีทายก นำกล่าวคำถวายดังนี้
ตั้งนะโม 3 จบ พร้อมกัน แล้วกล่าวถวายตาม
อุกาสะ อิมัสมิง ทาเน สีลายัง เยวะ อิมานิ ภิกขานิ สะสุปะพยัญชนานิ สะขาทะนียะโภชะนียะนิ สะอุทะกานิ สะผะลานิ สัพเภสัชชานิ พุทธัสสะ ปะมุขัสสะ ภิกขุสังฆัสสะ เสสาสามะเณรัสสะ อุปาสะกัสสะ โอโนชะยามะฯ (ว่า 3 จบ) ก็ถวาย โดยคนหนึ่งยกบาตร คนหนึ่งยกน้ำ คนหนึ่งยกสำรับถวาย
เมื่อภิกษุรูปนั้นรับแล้ว ก็คุกเข่าถือบาตรประคองสวดถวายพระเถระ ดังนี้
(นะโม 3 จบ) อะยัง ปะฐะมะภาโค มะหาเถรัสสะ ปาปุณาติ อะวะเสสา ภาคา อัมมะหากัง ปาปุณันติ (สวด 3 จบ) ก็ยกน้อมถวายพระเถระจนหมดทุกอย่าง พระเณรก็จะลงมือฉันจังหัน
หลังจากนั้นก็มีพระธรรมเทศนาฉลองศรัทธา จบพระธรรมเทศนาพระสงฆ์ก็จะสวด “ดาร” (สวดอุทิศส่วนกุศลให้ผู้ล่วงลับไปแล้ว) จะสวดติโรกุทเทฯ หรือ อะทาสิเมฯ ก็แล้วแต่ จากนั้นก็สวดอนุโมทนา (ยะถาสัพพีฯ) ญาติโยมกรวดน้ำ เป็นอันเสร็จพิธี พิธีนี้จะทำทุกวัน จนกระทั่งถึงวันแรม 14 ค่ำ ก็ฉลอง กันสงฆ์ สวดพะหูเทวาฯ วันต่อมาเป็นวันแรม 15 ค่ำ ก็เป็นวันเบ็นทม (สารทใหญ่)
อานิสงส์
ชาวเขมร-ส่วนเชื่อว่า หลังจากวิญญาณผู้ตายมารับเครื่องเซ่นไหว้ในวันแซนโดนตาแล้ว ยังไม่ได้ไปผุดไปเกิดหรือวิญญาณที่เคยทำบาปทำกรรมไว้ ที่ถูกจำจองลงโทษเสวยผลกรรมอยู่ในนรกภูมิ แต่ว่าระหว่างช่วงวันเบ็นตูจ (สารทเล็ก) ถึงวันเบ็นทม (สารทใหญ่) พระยายมจะปล่อยให้วิญญาณเหล่านี้เป็นอิสระ และกลับมารับส่วนบุญซึ่งญาติพี่น้อง ญาติมิตรบุตรหลานอุทิศให้ พระยายมปล่อยให้วิญญาณเหล่านั้นกลับมาเยี่ยมบ้านได้เป็นเวลา 15 วัน หลังจากนั้นจะเรียกกลับไปรับผลกรรมในนรกต่อไป
วิญญาณของคนบาปเร่ร่อน มักจะปรากฏให้เห็นเป็นเปรต อสูรกาย เป็นวิญญาณที่อดอยากผอมโซ ต้องรอรับส่วนบุญที่ญาติพี่น้องอุทิศไปให้ จึงจะได้อิ่มหนำสำราญ ชาวเขมร-ส่วนเชื่อว่าบุญกุศลที่อุทิศให้นี้จะเป็นปัจจัยนำให้วิญญาณเหล่านั้นได้ไปผุดไปเกิดในสุคติภพต่อไป พิธีกันสงฆ์ที่กระทำในช่วง 15 วันดังกล่าว ก็เพื่อแผ่ส่วนกุศลอุทิศแก่ญาติผู้ล่วงลับไปแล้วนั่นเอง
ผู้เรียบเรียง มงกุฎ แก่นเดียว
ที่มา หนังสือสารานุกรมไทยภาคอีสาน เล่ม 1
เข้าชม : 939
|